พระพิฆเณศ ของสุริยันต์ วงค์โยธา
พระพิฆเณศ เป็นเทพจากศาสนาพราหมณ์ หรือ ฮินดู ที่ผ่านเข้ามาจากอินเดียสู่ไทยแต่บรรพกาล จนปัจจุบันเทพต่างๆเหล่านั้นได้เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนไทย เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เป็นตราประจำกรมกอง,มหาวิทยาลัย ฯลฯ พระพิฆเณศเป็นเทพของศาสตร์และศิลป์ โดยเฉพาะกับวงการศิลปกรรมไทย พระองค์คือเทพแห่งศิลปกรรมและการช่างที่ผู้คนผู้ประกอบสัมมาอาชีพนี้ต้องกราบไหว้ รูบลักษณ์ของพระพิฆเณศโดยรวมมีเศียรเป็นช้างมีร่างกายเป็นมนุษย์ มี ๔ กร, ๖ กร หรือ ๘ กร แล้วแต่ภาคหรือปางของพระองค์ซึ่งมีอยู่ถึง ๓๒ ปางโดยทั้ง ๓๒ ปางจะมีสีแดงเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือสีขาว, สีทอง – เหลือง และสีฟ้าน้อยสุด เพียง ๒ ปาง คือปางเสน่หา และความสำเร็จ , สมปารถนา ปางนี้เองที่เป็นสีโดยรวมในภาพผลงาน พระพิฆเณศ ของสุริยัน วงค์โยธา
สุริยันต์ วงค์โยธา เริ่มชีวิตศิลปกรรมจากช่างพื้นบ้าน จากการเรียนรู้ศิลปกรรมด้วยตัวเอง จากประสบการณ์เก็บเล็กผสมน้อย จากศิลปินคนนี้ จากศิลปินคนนั้น ผ่านเวลา ๑๐ กว่าปีจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันในช่วง ๓ ปีหลัง สุริยันเริ่มพบเจอตัวเองในเนื้อหาสาระแห่งศิลปกรรม จากการย้ำคิด ย้ำทำกับภาพลักษณ์พระพิฆเณศ พระพิฆเณศของสุริยันในปัจจุบันจึงอิสระ แตกต่างจากพระพิฆเณศที่เคยมี เคยเห็นกันมาแต่อดีตกาล ภาพพระพิฆเณศของสุริยันส่วนมากมีองค์ภาพและพื้นเป็นสีฟ้าคราม สีฟ้าครามที่ทรงเสน่ห์ ไม่ใช่แดนสวรรค์ของคติความเชื่อเดิมของพราหม์ แต่เป็นสีฟ้าครามแดนสวรรค์ที่จักรวาลในปัจจุบันสมัย มีเพียงเครื่องทรงของผ้าสีแดงและมงกุฎ, กำไล, สร้อย , เข็มขัด , รองเท้าเท่านั้นที่บ่งบอกการเป็นมาของอารยะธรรมอินเดีย สุริยันฉลาดสร้างบรรยากาศภาพด้วยการตกแต่งมาลามวลดอกไม้ ฟุ้งกระจายเต็มพื้นภาพ สอดรับกับรอยแย้มพระสรวลขององค์พระพิฆเณศ ที่ดูใจดีขี้เล่น สมกับภาพสีฟ้าของปางเสน่ห์หา ซึ่งสุริยันหารู้ไม่ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นพ้องต้องตรงกันกับอดีต
สุริยันต์ วงค์โยธา เริ่มต้นชีวิตศิลปกรรมด้วยความรัก ความใฝ่รู้ ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้คน ศิลปกรรมของเขาเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบ ขยันหมั่นเพียร ไม่ปล่อยปะละเลย ความเพียรพยายามจะนำพาเขาไปพบพานพระพิฆเณศได้ในอนาคต พระพิฆเณศผู้เปี่ยมไปด้วยความรอบรู้ เป็นเทพแห่งพระกรุณาที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ โอม ศรีคะเน สายะ นะมาฮา
สมพงษ์ สารทรัพย์
25 มกราคม 2555
|
|
สุริยันต์ วงค์โยธา / MR.Suriyun Wongyota
เกิดวันที่ 1 สิงหาคม 2517
การศึกษา ศึกษาศิลปะด้วยตัวเอง
แนวคิด
การไม่ได้ผ่านสถาบันศิลปะใด ๆ มาเลย ตลอดเวลาเกือบ10ปีบนเส้นทางนี้จึงสะเปะสะปะน่าดู อาศัยแค่รักชอบและศึกษาด้วยตัวเองมาตลอด ทำให้ได้รู้ว่า จะชำนาญการอะไรซักอย่างโดยลำพังมันยากชะมัด
แต่ก็ถือว่ายังโชคดีอยู่มาก ที่ได้มีโอกาสคลุกคลีตีโมงกับศิลปินรุ่นใหญ่หลายท่าน ฉวยโอกาสเก็บเกี่ยวความรู้ จากการแนะนำหรือทำเนียนขอเอาดื้อ ๆ เป็นความน่ารักของศิลปินเก๋าเกมส์โดยแท้ ที่ไม่เคยหวงวิชาหรือกั๊กไว้ในกรุแต่อย่างใด จึงได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดี ท่านเหล่านี้จึงถือเป็นอาจารย์โดยปริยาย แต่ด้วยนิสัยเคยตัว ไม่วายตามก้นศิลปินไอด้อลชนิดเกาะแข้งเกาะขากันเลยทีเดียว งานช่วงแรก ๆ จึงไม่มีรูปแบบและอัตตลักษณ์ชัดเจนเสียที
หลังจากไร้ทิศทางมานาน เห็นแววเจอทางตันเป็นแน่ จึงไปขอคำปรึกษาจากรุ่นใหญ่ที่นับถือ ได้รับการแนะนำว่าให้หาอะไรใกล้ ๆ ตัว มาสร้างเป็นแนวของตัวเอง ....แว่บแรกที่นึกถึง คือ พระพิฆเณศร์ เพราะโดดเด่นและมีอิทธิพลกับคนศิลปะอยู่แล้ว ดังนั้น ผมจึงจริงจังกับพระคเณศร์ อย่างเอาเป็นเอาตาย 3 ปีให้หลัง จึงมีแนวทางเป็นของตนเองและมีผลงานเข้าร่วมในกิจกรรมศิลปะอย่างต่อเนื่อง ด้วยคำแนะนำและแรงผลักดันของรุ่นใหญ่ที่กล่าวมานั้นบวกกับแรงสนับสนุนของผู้มีพระคุณ ผลงานชุดนี้จึงได้เกิดขึ้นมา
ด้วยอุปนิสัยส่วนตัว ที่เป็นคนอารมณ์ดี สนุกสนาน เฮฮา นั้นมีผลกับงานชุดนี้มาก และพร้อมยอมรับกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่จะตามมา เพราะจากลักษณะผลงานที่ปรากฏ หลายท่านยังเป็นห่วงและกลัวว่าจะสร้างทัศนคติที่ผิด ๆ กับคนที่นับถือและศรัทธาในองค์พระพิฆเณศร์ หรือไม่ เพราะงานชุดนี้อาจดูแตกต่างและไม่ชินตา ดังนั้น ก่อนอื่น ผมต้องกราบขออภัย ผมมิได้มีเจตนาในทางลบกับความเชื่อ หรือล้อเลียนตำราครูบาอาจารย์แต่อย่างใด เพราะอย่างน้อย ผมก็เป็นหนึ่งในผู้ศรัทธาในองค์ท่าน อย่างที่รู้กันและเข้าใจมาตลอดว่าพระพิฆเณศร์เป็นสมมุติเทพ โบร่ำโบราณสมมุติขึ้นมา ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบได้ ผมไม่ได้ลงรายละเอียดเชิงลึกขนาดนั้น ดังนั้น ในยุคของผม ผมจึงสมมุติบ้างแต่เป็นการสมมุติที่ยังอยู่ในขอบเขตพื้นฐานของความเหมาะสม ดังภาพที่ปรากฎในผลงาน แม้จะหลุดกรอบบ้างเล็กน้อย ในทางกลับกัน เป็นเจตนาของผมที่ต้องการถ่ายทอดลักษณะและบุคคลิกที่ผ่อนคลาย อบอุ่น เพื่อสร้างความสุขให้กับคนที่รักพระคเณศร์ หากพระพิฆเณศร์เทพผู้เป็นอมตะ มีตัวตนจริงอยู่ในโลกปัจจุบัน เชื่อว่าอิริยาบถของผมที่นำเสนอมานี้คงเป็นภาพที่คุ้นตาอย่างแน่นอน
โอม ศรีคะเน สายะ นะมาฮา. |
|
โอม / Ganesha-Respect 1
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,180 X140 cm.
นาฎลีลา ๒ / Ganesha-Respect 2
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,80 X160 cm.
นาฎลีลา ๑ /Ganesha-Respect 3
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,65 X95 cm.
คเณศวร ๑ / Ganesha-Respect 4
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,65 X95 cm.
คเณชะ ๒ / Ganesha-Respect 6
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,80 X130 cm.
คเณศวร ๒ / Ganesha-Respect 8
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,65 X95 cm.
นาฎลีลา ๑ / Ganesha-Respect 10
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,65 X95 cm.
กายทิพย์ ๑ / Ganesha-Respect 11
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,60 X 40 cm.
กายทิพย์ ๒ / Ganesha-Respect 12
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,60 X40 cm.
นาคปก(ป้อง) / Ganesha-Respect 13
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,65 X180 cm.
The Exhibition Of Painting
Ganesha
"คเณชะ"
ของ สุริยันต์ วงศ์โยธา / Suriyun Wongyota
มีนาคม๒๕๕๖ / March 2013
โดย
อาจารย์ สมลักษณ์ ปันติบุญ
ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ
To be presided over by
Khun Somluk Pantiboon
|
|
|
สุริยันต์ วงค์โยธา / MR.Suriyun Wongyota
เกิดวันที่ 1 สิงหาคม 2517
การศึกษา ศึกษาศิลปะด้วยตัวเอง
แนวคิด
การไม่ได้ผ่านสถาบันศิลปะใด ๆ มาเลย ตลอดเวลาเกือบ10ปีบนเส้นทางนี้จึงสะเปะสะปะน่าดู อาศัยแค่รักชอบและศึกษาด้วยตัวเองมาตลอด ทำให้ได้รู้ว่า จะชำนาญการอะไรซักอย่างโดยลำพังมันยากชะมัด
แต่ก็ถือว่ายังโชคดีอยู่มาก ที่ได้มีโอกาสคลุกคลีตีโมงกับศิลปินรุ่นใหญ่หลายท่าน ฉวยโอกาสเก็บเกี่ยวความรู้ จากการแนะนำหรือทำเนียนขอเอาดื้อ ๆ เป็นความน่ารักของศิลปินเก๋าเกมส์โดยแท้ ที่ไม่เคยหวงวิชาหรือกั๊กไว้ในกรุแต่อย่างใด จึงได้รับความอนุเคราะห์เป็นอย่างดี ท่านเหล่านี้จึงถือเป็นอาจารย์โดยปริยาย แต่ด้วยนิสัยเคยตัว ไม่วายตามก้นศิลปินไอด้อลชนิดเกาะแข้งเกาะขากันเลยทีเดียว งานช่วงแรก ๆ จึงไม่มีรูปแบบและอัตตลักษณ์ชัดเจนเสียที
หลังจากไร้ทิศทางมานาน เห็นแววเจอทางตันเป็นแน่ จึงไปขอคำปรึกษาจากรุ่นใหญ่ที่นับถือ ได้รับการแนะนำว่าให้หาอะไรใกล้ ๆ ตัว มาสร้างเป็นแนวของตัวเอง ....แว่บแรกที่นึกถึง คือ พระพิฆเณศร์ เพราะโดดเด่นและมีอิทธิพลกับคนศิลปะอยู่แล้ว ดังนั้น ผมจึงจริงจังกับพระคเณศร์ อย่างเอาเป็นเอาตาย 3 ปีให้หลัง จึงมีแนวทางเป็นของตนเองและมีผลงานเข้าร่วมในกิจกรรมศิลปะอย่างต่อเนื่อง ด้วยคำแนะนำและแรงผลักดันของรุ่นใหญ่ที่กล่าวมานั้นบวกกับแรงสนับสนุนของผู้มีพระคุณ ผลงานชุดนี้จึงได้เกิดขึ้นมา
ด้วยอุปนิสัยส่วนตัว ที่เป็นคนอารมณ์ดี สนุกสนาน เฮฮา นั้นมีผลกับงานชุดนี้มาก และพร้อมยอมรับกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่จะตามมา เพราะจากลักษณะผลงานที่ปรากฏ หลายท่านยังเป็นห่วงและกลัวว่าจะสร้างทัศนคติที่ผิด ๆ กับคนที่นับถือและศรัทธาในองค์พระพิฆเณศร์ หรือไม่ เพราะงานชุดนี้อาจดูแตกต่างและไม่ชินตา ดังนั้น ก่อนอื่น ผมต้องกราบขออภัย ผมมิได้มีเจตนาในทางลบกับความเชื่อ หรือล้อเลียนตำราครูบาอาจารย์แต่อย่างใด เพราะอย่างน้อย ผมก็เป็นหนึ่งในผู้ศรัทธาในองค์ท่าน อย่างที่รู้กันและเข้าใจมาตลอดว่าพระพิฆเณศร์เป็นสมมุติเทพ โบร่ำโบราณสมมุติขึ้นมา ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบได้ ผมไม่ได้ลงรายละเอียดเชิงลึกขนาดนั้น ดังนั้น ในยุคของผม ผมจึงสมมุติบ้างแต่เป็นการสมมุติที่ยังอยู่ในขอบเขตพื้นฐานของความเหมาะสม ดังภาพที่ปรากฎในผลงาน แม้จะหลุดกรอบบ้างเล็กน้อย ในทางกลับกัน เป็นเจตนาของผมที่ต้องการถ่ายทอดลักษณะและบุคคลิกที่ผ่อนคลาย อบอุ่น เพื่อสร้างความสุขให้กับคนที่รักพระคเณศร์ หากพระพิฆเณศร์เทพผู้เป็นอมตะ มีตัวตนจริงอยู่ในโลกปัจจุบัน เชื่อว่าอิริยาบถของผมที่นำเสนอมานี้คงเป็นภาพที่คุ้นตาอย่างแน่นอน
โอม ศรีคะเน สายะ นะมาฮา. |
พระพิฆเณศ ของสุริยันต์ วงค์โยธา
พระพิฆเณศ เป็นเทพจากศาสนาพราหมณ์ หรือ ฮินดู ที่ผ่านเข้ามาจากอินเดียสู่ไทยแต่บรรพกาล จนปัจจุบันเทพต่างๆเหล่านั้นได้เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนไทย เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เป็นตราประจำกรมกอง,มหาวิทยาลัย ฯลฯ พระพิฆเณศเป็นเทพของศาสตร์และศิลป์ โดยเฉพาะกับวงการศิลปกรรมไทย พระองค์คือเทพแห่งศิลปกรรมและการช่างที่ผู้คนผู้ประกอบสัมมาอาชีพนี้ต้องกราบไหว้ รูบลักษณ์ของพระพิฆเณศโดยรวมมีเศียรเป็นช้างมีร่างกายเป็นมนุษย์ มี ๔ กร, ๖ กร หรือ ๘ กร แล้วแต่ภาคหรือปางของพระองค์ซึ่งมีอยู่ถึง ๓๒ ปางโดยทั้ง ๓๒ ปางจะมีสีแดงเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาคือสีขาว, สีทอง – เหลือง และสีฟ้าน้อยสุด เพียง ๒ ปาง คือปางเสน่หา และความสำเร็จ , สมปารถนา ปางนี้เองที่เป็นสีโดยรวมในภาพผลงาน พระพิฆเณศ ของสุริยัน วงค์โยธา
สุริยันต์ วงค์โยธา เริ่มชีวิตศิลปกรรมจากช่างพื้นบ้าน จากการเรียนรู้ศิลปกรรมด้วยตัวเอง จากประสบการณ์เก็บเล็กผสมน้อย จากศิลปินคนนี้ จากศิลปินคนนั้น ผ่านเวลา ๑๐ กว่าปีจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันในช่วง ๓ ปีหลัง สุริยันเริ่มพบเจอตัวเองในเนื้อหาสาระแห่งศิลปกรรม จากการย้ำคิด ย้ำทำกับภาพลักษณ์พระพิฆเณศ พระพิฆเณศของสุริยันในปัจจุบันจึงอิสระ แตกต่างจากพระพิฆเณศที่เคยมี เคยเห็นกันมาแต่อดีตกาล ภาพพระพิฆเณศของสุริยันส่วนมากมีองค์ภาพและพื้นเป็นสีฟ้าคราม สีฟ้าครามที่ทรงเสน่ห์ ไม่ใช่แดนสวรรค์ของคติความเชื่อเดิมของพราหม์ แต่เป็นสีฟ้าครามแดนสวรรค์ที่จักรวาลในปัจจุบันสมัย มีเพียงเครื่องทรงของผ้าสีแดงและมงกุฎ, กำไล, สร้อย , เข็มขัด , รองเท้าเท่านั้นที่บ่งบอกการเป็นมาของอารยะธรรมอินเดีย สุริยันฉลาดสร้างบรรยากาศภาพด้วยการตกแต่งมาลามวลดอกไม้ ฟุ้งกระจายเต็มพื้นภาพ สอดรับกับรอยแย้มพระสรวลขององค์พระพิฆเณศ ที่ดูใจดีขี้เล่น สมกับภาพสีฟ้าของปางเสน่ห์หา ซึ่งสุริยันหารู้ไม่ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้นพ้องต้องตรงกันกับอดีต
สุริยันต์ วงค์โยธา เริ่มต้นชีวิตศิลปกรรมด้วยความรัก ความใฝ่รู้ ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้คน ศิลปกรรมของเขาเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบ ขยันหมั่นเพียร ไม่ปล่อยปะละเลย ความเพียรพยายามจะนำพาเขาไปพบพานพระพิฆเณศได้ในอนาคต พระพิฆเณศผู้เปี่ยมไปด้วยความรอบรู้ เป็นเทพแห่งพระกรุณาที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ โอม ศรีคะเน สายะ นะมาฮา |
|
Ganesha 1
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,- X- cm.
Ganesha 2
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,- X- cm.
Ganesha 3
สีอะครีลิก บนผ้าใบ / Acrylicl on Canvas ,- X- cm. |